รีวิวหนังจี Kung Fu League การเผชิญหน้ากันของ 4 ปรมาจารย์แห่งโลกกังฟู

เรื่องราวของ เฟยอิงสง นักวาดการ์ตูนต๊อกต๋อยที่กำลังวาดการ์ตูนเรื่อง กังฟูลีค อยู่ โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับปรมาจารย์กังฟู 4 ท่าน ได้แก่ หวงเฟยหง, ฮั่วหยวนเจี่ย, ยิปมัน และ เฉินเจิน ที่หลงยุคมายังโลกยุคปัจจุบัน

 อิงสง ทำงานอยู่ในบริษัทที่ทำธุกิจเกี่ยวกับด้านเทคโนโลยีของ จางเผิง ซึ่งมี เป่าเอ๋อร์ หญิงสาวที่เขาแอบหลงรักทำงานอยู่ด้วย เขาตกหลุมรัก เป่าเอ๋อร์ มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว แต่ความรักของเขาก็มีก้างชิ้นใหญ่ขวางอยู่ นั่นคือ จางเผิง เองก็หลงรัก เป่าเอ๋อร์ มาตั้งแต่เด็กแล้วเช่นกัน

          ด้วยความที่ฐานะต่ำต้อย ซึ่งไม่ว่าจะมองจากด้านมุมไหน เขาก็ไม่มีทางสู้ จางเผิง ได้เลย เขาจึงไม่กล้าที่จะสารภาพรักกับ เป่าเอ๋อร์

          จนกระทั่งวันหนึ่งในค่ำคืนที่เป็นวันเกิดของเขา เขาได้อธิษฐานขอพร ขอให้เหล่าปรมาจารย์กังฟูทั้ง 4 ท่านได้แก่ หวงเฟยหง, ฮั่วหยวนเจี่ย, ยิปมัน และ เฉินเจิน ปรากฏตัวออกมาเพื่อช่วยเหลือเขาให้สมหวังในด้านความรักกับ เป่าเอ๋อร์ ซะที และทันใดนั้นปาฏิหาริย์ก็บังเกิด แต่ไม่ทันได้เห็นอะไร อิงสง กลับสลบไปเสียก่อน

          เช้าวันต่อมา ปรมาจารย์กังฟูทั้ง 4 ท่านก็ได้มาปรากฏตัวอยู่ในยุคปัจจุบัน โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา มีแต่เพียงความฝันแปลกๆ ที่พวกเขาทั้ง 4 ท่านฝันเหมือนกัน ซึ่งเกี่ยวกับเงือกชายตนหนึ่งที่โผล่ขึ้นมาให้เลขปริศนากับพวกเขาทั้ง 4 แต่เป็นเลขคนละชุดกัน

          เรื่องราวฮาๆ ของสุดยอดปรมาจารย์กังฟูหลงยุคจึงได้เริ่มต้นขึ้น พร้อมกับการตามหาชายปริศนาในฝันคนนั้น โดยหวังว่าชายคนนั้นจะสามารถให้คำตอบของเรื่องราวทั้งหมดและพาพวกเขากลับบ้านในยุคสมัยที่ถูกต้องได้

นี่มันงาน Avengers ของฝั่งปรมาจารย์กังฟูจีนแท้ๆ ตอนที่ได้เห็นตัวอย่างของหนังเรื่องนี้เป็นครั้งแรก บอกตามตรงเลยว่าตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นเหล่าปรมาจารย์กังฟูทั้ง 4 ท่านนี้มาซัดกันประมือกัน คงจะมันส์แน่ๆ ยิ่งได้นักแสดงที่เคยรับบทเหล่านี้กลับมารับบทเดิมกันแล้ว ยิ่งมีความสนใจมากขึ้นเยอะเลย

      แต่พอได้ดูแล้วก็ต้องยอมรับเลยว่า ค่อนข้างจะน่าผิดหวังอยู่พอสมควรเลย เพราะไอที่เราคาดหวังว่าจะได้เห็นฉากการต่อสู้แบบกังฟูแอคชั่นแจ่มๆ กับมุมกล้องสวยๆ อะไรแบบนั้น มันไม่มีให้เราเลย
      แม้กระทั่งฉากการต่อสู้ของ จ้าวเหวินจั๋ว (ที่อุตส่าห์ได้กลับมารับบท หวงเฟยหง บทเดิมที่เคยสร้างชื่อให้กับเขามา) กับ บรูซเหลียง ที่น่าจะเป็นไฮไลท์ของเรื่อง ก็ทำออกมาได้แบบแย่มากๆ เลย (เสียดายของมาก)
      ถ้ามองในมุมของความเป็นหนังตลก หากใครที่เคยติดตามงานเก่าๆ ของ หลิวเจิ้นเหว่ย มาโดยตลอด คงจะรู้ซึ้งถึงเซนส์ในการทำหนังตลกของเขาเป็นอย่างดีว่ามันตลกแค่ไหน และยำใหญ่คาแรคเตอร์ตัวละครได้ขนาดไหน และกับเรื่องนี้ก็เช่นกัน ความฮาที่จัดมาให้ ก็มีตั้งแต่ระดับขำหึหึไปจนถึงระดับขำก๊ากกันเลยทีเดียว
      ซึ่งถ้ามองจากคนดูที่ชอบดูหนังตลก มันก็ตอบโจทย์ได้ดีเลยแหละ แต่ถ้าเรามองในมุมของคนที่เขาเคารพและเทิดทูนปรมาจารย์กังฟูทั้ง 4 ท่าน หนังเรื่องนี้มันก็เหมือนเอาพวกเขามาล้อเล่น ซึ่งบางฉากมันก็มีเลยเถิดไปเหมือนกันนะ และเชื่อว่าสำหรับคนดูกลุ่มนี้ คงจะไม่ปลื้มอะไรแบบนี้แน่ๆ เลย

      เพราะด้วยความเป็นหนังตลกสไตล์ หลิวเจิ้นเหว่ย สิ่งที่เราจะได้เห็นก็คือปรมาจารย์กังฟูทั้ง 4 ท่านมาเล่นตลกโปกฮาแทนการโชว์สกิลทางด้านกังฟูแทน (แบบเดียวกับที่เค้าเคยทำกับพระถังซัมจั๋งในเรื่อง ไซอิ๋วกี่ เดี๋ยวลิงเดี๋ยวคน: A Chinese Odyssey นั่นแหละฮะ)
      จุดหนึ่งที่ไม่ชอบอย่างมากเลย คือการใส่ CG ที่อะไรก็ไม่รู้ ดูไม่อินเอาซะเลย แถมการใช้สลิงตามสไตล์หนังจีนก็ทำออกมาได้ไม่ดีเลย เสียชื่อประเทศเจ้าแห่งสลิงจริงๆ

Solverwp- WordPress Theme and Plugin